วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2555

ทดสอบปลายภาค

ให้นักศึกษาอ่านบทความต่อไปนี้ วิเคราะห์แสดงความคิดเห็น
1.  แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา  ให้นักศึกษาอ่านบทความอย่างน้อย  3  บทความหรือมากกว่า  ใช้  Keyword  ว่า "แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา"  ให้เขียนเชื่อมโยง  วิเคราะห์ลงในบล็อกของนักเรียน
การศึกษาในยุคใหม่นี้ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว นวัตกรรมใหม่อย่าง "แท็บเล็ต" (Teblet) กำลังได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายมากขึ้น  เพราะเป็นเครื่องมือที่ให้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ง่ายและเร็วกว่าที่จะจดจำเอง  รูปแบบการเรียนสอนก็เปลี่ยนเป็นการเรียนรู้และแสวงหาด้วยตนเอง  จะเน้นด้านทักษะ  ความคิดและกระบวนการ  การจะใช้สื่อให้ได้ผลดีต้องขึ้นอยู่กับครูที่จะออกแบบกระบวนการเรียนรู้ของเด็กให้ผสมผสานกับกระบวนการต่างๆ  ในโรงเรียน  การใช้แท็บเล็ตตั้งแต่เล็กจะรับรู้และคุ้นเคยกับเทคโนโลยีและสร้างโลกส่วนตัว  แต่จะทำให้ผู้คนไม่สนใจคนรอบข้าง  ไม่อยากพูดคุยกับคนที่อยู่ใกล้
แท็บเล็ตมีข้อได้เปรียบกว่าโน้ตบุ๊ค
1.             ใช้งานได้สะดวก
2.             ไม่มีแป้นพิมพ์
3.             น้ำหนักเบา
4.             กินไฟน้อยกว่า
5.             ใช้หน้าจอแบบสัมผัส
6.             มีความคล่องตัว เพราะใช้กับโปรแกรมหรือแอพพลิเคชั่นสำเร็จรูป แต่ป้อนข้อมูลได้ช้าถ้าจะใช้
งานให้ดีต้องเชื่อมโยงกับเครือข่ายข้อมูลจากโลกอินเทอร์เน็ต อีกทั้งหน้าจอจะเสียหายได้ง่าย
จุดเด่น ของการใช้แท็บเล็ต พีซี
            1.สนองต่อการเรียนรู้เป็นรายบุคคล
            2.เป็นสื่อที่ก่อให้เกิดการสร้างปฏิสัมพันธ์อย่างมีความหมาย
            3.เกิดการแบ่งปันประสบการณ์ซึ่งกันและกัน
            4.สามารถออกแบบหน่วยการเรียนรู้ได้ชัดเจน และมีความยืดหยุ่น
            5.ส่งผลสะท้อนความก้าวหน้าทางการเรียนรู้จากเนื้อหาที่เรียนต่อผู้เรียนได้ดีและสามารถช่วยให้ผู้เรียนปรับปรุงตนเองในการเรียนรู้เนื้อหาสาระ
            6.สนองต่อคุณภาพข้อมูลสารสนเทศ ทำให้ผู้เรียนเข้าถึงเนื้อหาสาระของข้อมูลสารสนเทศ
จุดบกพร่องของการใช้แท็บเล็ต พีซี
            1.ขณะนี้ประเทศไทยยังไม่มีหลักสูตรการเรียนการสอนโดยการใช้ Tablet
            2.ครูผู้สอนยังขาดทักษะในการใช้อุปกรณ์ Tablet ในการจัดการเรียนการสอน ในขณะที่ผู้เรียนบางคนมีความพร้อมที่จะเรียน
            3.ยังไม่มีการสร้างเนื้อหาบทเรียนและกิจกรรมที่ใช้ประกอบการเรียนการสอน
            4.ยังไม่มีหน่วยงานรับผิดชอบ ด้านการบำรุงรักษา  การแก้ปัญหาเรื่องอุปกรณ์และการใช้งาน
            5.มีการจำกัดผู้เรียนในการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ (อินเตอร์เน็ต) ซึ่งทำให้ผู้เรียนขาดอิสระในการเรียนรู้
2.  อ่านบทความเรื่องสมาคมอาเซียนอ่านบทความอย่างน้อย  3  บทความหรือมากกว่า  ใช้  Keyword  ว่า "สมาคมอาเซียน"  ให้เขียนวิเคราะห์  ประเทศไทย  ประเทศเพื่อนบ้าน  การเตรียมตัวเป็นครู  นักเรียน นักศึกษา  เพื่อไปสู่อาเซียนได้อย่างไร
 ประเทศไทยจะต้องเร่งแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น  และการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางสังคม  เช่น  อัตราการเข้าเรียนต่อในระดับมัธยมศึกษา  และอัตราส่วนครูต่อนักเรียน  และประเทศไทยยังด้อยเรื่องภาษา  พูดได้ภาษาเดียว  ควรมีการส่งเสริมและรณรงค์ในมีการฝึกพูดภาษาที่หลากหลายโดยเฉพาะภาษาอังกฤษคนไทยยังไม่แข็งแรงนัก  น้อยคนนักที่จะพูดได้หลายภาษา  แต่ต้องดำรงไว้ซึ่งภาษาท้องถิ่นด้วย
ประเทศเพื่อนบ้าน  มุ่งทำให้แต่ละประเทศอยู่รวมกันอย่างสันติสุข  มีระบบการแก้ไขความขัดแย้ง  ระหว่างกันได้ด้วยดี  ส่วนทางด้านเศรษฐกิจก็มุ่งทำให้เกิดการรวมตัวและอำนวยความสะดวกในการติดต่อการค้าขายระหว่างกัน  ซึ่งจะส่งผลให้แต่ละประเทศมีความเจริญมั่งคั่ง  และเพื่อความอยู่ดีกินดีของประชาชนในแต่ละประเทศด้วย


3.  อ่านบทความครูกับภาวะผู้นำของ  ผศ.ดร.สมาน คำฟูแสง  ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับครู  ให้ยกตัวอย่าง ประกอบ  แสดงความคิดเห็น  
บทความ  ผศ.ดร.สมาน คำฟูแสง
การที่ครูมีความรู้ความสามารถและแสดงออกให้เห็นว่าเป็นผู้มีสมรรถนะด้านการจัดการเรียนการสอน  เป็นที่ยอมรับของเพื่อนครู นักเรียน(นักศึกษา) และผู้ปกครอง จนทำให้เกิดกระบวนการพัฒนาอย่างมีส่วนร่วมให้เกิดในองค์กรได้"  ผู้นำที่ดีจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ 4 ด้านคือ
1.             ศรัทธา
2.             ความไว้วางใจ
3.             สร้างแรงบันดาลใจ
4.             ยอมรับในความเป็นปัจเจกบุคคล
และครูที่จะเป็นผู้นำทางวิชาการ หรือผู้นำทางการเรียนการสอน  ควรมีพฤติกรรม  7 ประการ คือ
1.             หาหนังสือที่ติดอันตับขายที่ดีที่สุดมาอ่าน
2.             อยู่กับปัจจุบัน  /  ทันสมัย
3.             หาข้อมูล  มีความรู้ที่เกี่ยวกับเด็ก
4.             ทำให้เด็กแสดงออซึ่งการเป็นภาวะผู้นำ
5.             กำหนดให้เด็กทำงานรวมกันเป็นกลุ่ม
6.             เชิญบุคคลภายนอกมาพูดให้เด็กฟัง
7.             ท้าทายให้เด็กได้คิด

 4.  ให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นและประเมินวิชานี้ว่า  การเรียนรู้โดยใช้บล็อก  นักศึกษามีวิธีการเรียนรู้อย่างไร  แสดงความคิดเห็นหากจะเรียนรู้โดยใช้บล็อก  ต่อไปข้างหน้าโอกาสจะเป็นอย่างไร  ควรที่จะให้คะแนนวิชานี้อย่างไร  และหานักเรียนต้องการจะได้เกรดในวิชานี้  นักเรียนจะต้องพิจารณาว่า
ดิฉันคิดว่า  การที่อาจารย์ให้ทำงานโดยใช้วิธีการตอบในบล็อก  เป็นสิ่งดีที่สามารถนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยในยุคนี้มาใช้เป็นสื่อในการเรียนการสอนซึ่งดิฉันสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้จริงในการเรียนการสอนต่อไป
ในการทำงานแต่ละครั้งดิฉันตั้งใจทำเป็นอย่างมาก  อาจจะตอบไม่ตรงประเด็นที่อาจารย์ถามไปบ้างแต่ก็ตั้งใจทำทุกครั้ง  ขาดเรียนบาง  แต่ทำงานส่งตามกำหนดเกือบทุกครั้ง  ที่ตอบมาเป็นความสัตย์จริง  การให้เกรดก็แล้วแต่อาจารย์เห็นสมควร  แต่ไม่เอาเกรด  E  ค่ะ  แต่ถ้าได้เกรด  A  จะดีมากเลยค่ะ
อาจารย์เป็นบุคคลที่เก่งมีความสามารถมากค่ะ  ขอขอบคุณที่อาจารย์สอนให้ทำบล็อก  ซึ่งเป็นสิ่งที่ดิฉันไม่เคยได้เรียนมาก่อน  ในอนาคตข้างหน้าดิฉันจะได้นำไปใช้ได้เองค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2555

กิจกรรม
วันแม่  12  สิงหาคม  2555
หนูรักแม่ที่สุดเลย

ครอบครัวที่แสนอบอุ่น   มีความสุขทุกครั้งที่ได้ดู

วันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555

กิจกรรมที่  9

จัดชั้นเรียนอย่างไรให้น่าสนใจ

การจัดห้องเรียนและการเรียนการสอนควรกิจกรรมหลาย ๆ ประเภท เพื่อเป็นสิ่งเร้าและกระตุ้นให้เด็กอยากเรียน  ครูนับเป็นคนที่มีส่วนสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนให้เด็กแต่ละคนพบความสามารถของตนเองผ่านทางกิจกรรมและปัจจัยหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน  นั่นก็คือการสร้างสิ่งแวดล้อมในการเรียนให้น่าเรียนได้ การจัดห้องเรียนที่มีโต๊ะ เก้าอี้ หรือการจัดที่นั่งให้เหมาะสมกับกิจกรรมการเรียนการสอน
การจัดและตกแต่งห้องเรียน ควรยึดหลัก 2 ประการ คือ                
1. การเร้าความสนใจในการเรียน                
2. ความมีระเบียบ               
ทั้งนี้การจัดและปรับปรุงห้องเรียนในระดับประถมศึกษา ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างครูและนักเรียน โดยยึดหลักดังนี้ คือ              
1. สร้างสิ่งแวดล้อมที่น่าสนใจ              
2. ให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการวางแผน              
3. ส่งเสริมให้นักเรียนเกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์              
4. ยึดถือความแตกต่างระหว่างบุคคล              
5. ยืดหยุ่นได้ตามความเหมาะสม
การจัดห้องเรียนเพื่อให้มีความยืดหยุ่นได้ตามความเหมาะสมนั้น ควรคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้ คือ
    
          

1. เด็กสนใจในสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้ไม่นาน              
2. ระดับความเจริญเติบโตของเด็กแตกต่างกัน              
3. แต่ละวิชามีความมุ่งหมายในการเรียนการสอนแตกต่างกัน
หลักเกณฑ์ในการจัดห้องเรียนเพื่อให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพควรมีลักษณะ ดังนี้
1. การจัดสภาพห้องเรียนต้องคำนึงถึงลักษณะการเรียนการสอน และวิธีการสอน โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของการใช้ นอกจากนี้การจัดห้องเรียนต้องคำนึงถึงบรรยากาศที่ต้องการให้เกิดขึ้น ในบางครั้งการจัดห้องเรียนควรจะได้คำนึงถึงความสะดวกและความยืดหยุ่นของการใช้งานด้วย              
2. โต๊ะ เก้าอี้ ควรเป็นแบบที่เบาไม่เทอะทะ เพื่อสะดวกต่อการเคลื่อนย้าย หรือปรับปรุง ลักษณะภายในห้องเรียน และการจัดวางจะต้องอยู่ในลักษณะที่เหมาะสม ไม่สร้างปัญหาในระหว่างการเรียนการสอน เช่น การบังกัน เป็นต้น              
3. เสียง จะต้องให้เกิดการได้ยินอย่างทั่วถึงและถ้าใช้เครื่องขยายเสียงจะต้องคำนึงถึงเสียงสะท้อนด้วย              
4. ไฟฟ้าและสว่าง แสงสว่างภายในห้องเรียน จะได้จากแสงธรรมชาติหรือแสงจากหลอดไฟจะต้องมีความสว่างพอเหมาะ ควรจะได้มีการติดตั้งหลอดไฟในตำแหน่งที่เหมาะกับการใช้งาน ตลอดจนการติดตั้งปลั๊กไฟต้องอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อสะดวกต่อการใช้งานและความปลอดภัย              
5. การระบายอากาศในห้องเรียน จำเป็นต้องมีการถ่ายเทอากาศได้ดี              
6. การใช้อุปกรณ์โสตทัศนศึกษา จะต้องจัดวางในที่เหมาะสมโดยคำนึงการกำหนดลักษณะการใช้งานและประสิทธิภาพของการใช้งาน
สภาพห้องเรียนที่ดีที่จะสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้นั้น ควรจะต้องมีความเหมาะสมในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านแสงสว่าง การระบายอากาศ ความสะอาด ความปลอดภัย ตลอดจนความเหมาะสมกับจำนวนผู้เรียน การจัดสภาพห้องเรียนที่ดีไม่จำเป็นต้องมีรูปแบบอย่างใดอย่างหนึ่งถาวร แต่ควรมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอตามความเหมาะสมกับวัยของนักเรียน ลักษณะของบทเรียน หรือกิจกรรมที่ครูนำมาใช้ประกอบบทเรียน

กิจกรรมที่  8

ครูมืออาชีพรุ่นใหม่ควรเป็นอย่างไร  เพราะเหตุใด

      หน้าที่ของครูที่แท้จริงนั้น ไม่จำเป็นต้องสอนในแต่เรื่องวิชาของตนเท่านั้น แต่ยังต้องสอนถึงการประพฤติที่ถูกต้องดีงาม เพื่อให้นักเรียนเติบโตขึ้นไปเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศ คิดเป็น มีจริยธรรม มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ รวมทั้งแสวงหาความรู้ พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ไม่หยุดการเรียนรู้เพียงแค่เมื่อสำเร็จการศึกษาเท่านั้น
      ดังนั้น หากจะเป็นครูมืออาชีพนั้น
      1.  อยู่กับสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม และเอื้อต่อการเรียนรู้
      2.  ส่งเสริมให้นักเรียนกล้าคิด กล้าถาม
      3.  อย่าทำให้ห้องเรียน หรือโรงเรียนเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว กดดัน
      4.  แต่จะต้องไม่มีการปล่อยปะละเลยเรื่องกฎระเบียบต่างๆ
      5.  ครูยังคงต้องรักษามาตรฐานต่างๆ ไว้ด้วย 
      6.  นักเรียนควรที่จะถูกฝึกให้สามารถประเมินความสามารถ และผลงานของตนเองได้อย่างถูกต้อง ไม่ลำเอียง คือ มีความรู้จักตนเอง
      7.  ครู โรงเรียน ครอบครัว และชุมชนควรมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อการเรียนรู้ของนักเรียน
      8.  เปิดโอกาสให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติจริง เมื่อนักเรียนได้เรียนรู้ผ่านการปฏิบัติแล้ว การต่อยอดความคิดจะง่ายขึ้น
      9.  ครูมืออาชีพต้องมีความสามารถในการขาย คือ  สามารถชี้แนะให้นักเรียนเห็นถึงความสำคัญ และความจำเป็นของการเรียนในวิชาดังกล่าวได้  หลักสำคัญในการขายคือ การชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ในชีวิตประจำวันที่นักเรียนจะได้รับจากการเรียน  นอกจากนั้น ครูควรที่จะให้ความสำคัญกับหลักสูตรที่เน้นการเชื่อมโยงความรู้ไปสู่การใช้ประโยชน์จริง เน้นถึงวิธีการประยุกต์ความรู้
      10.  ครูต้องเตรียมนักเรียนให้มีความพร้อมก่อนเริ่มเรียน
      11.  ครูมืออาชีพต้องกล้าเสี่ยง กล้าที่จะทดลองใช้วิธีการสอน อุปกรณ์การสอนแบบใหม่ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้เรียน  ห้องเรียนแต่ละชั้น นักเรียนแต่ละคนล้วนมีความแตกต่างกัน ดังนั้น การสอนจึงไม่มีคำตอบตายตัวว่าสอนแบบใดจึงจะได้ผล
      12.  ครูต้องมีความคิดเชิงระบบ
      13.  นักเรียน และผู้ปกครองทุกคนต้องได้รับการปฏิบัติที่เท่าเทียมกัน
      14.  ครูต้องสอนให้นักเรียนรู้จักที่จะเรียนรู้วิธีการเรียน (Learning how to learn) และเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต (Life long learning)  และเรียนรู้วิธีการเรียนด้วยตนเองเมื่อไม่มีครู เช่น รู้จักสังเกต ค้นคว้าด้วยตนเอง ดังคำกล่าวที่ว่า

"ให้ปลาหนูหนึ่งตัว หนูกินได้หนึ่งวัน สอนให้หนูหาปลา หนูมีปลากินได้ตลอดชีวิต"

เหตุผลที่ครูมืออาชีพรุ่นใหม่ต้องเป็นอย่างนี้  เพราะในโลกปัจจุบันนี้มีสื่อและเครื่องมือที่ทันสมัยที่จะนำมาใช้ในการเรียนการสอน  ซึ่งแตกต่างจากในสมัยก่อน  คือ  มีแหล่งศึกษาค้นคว้าได้แค่ในตำรา  แต่สำหรับในโลกยุคใหม่มีแหล่งในศึกษาค้นคว้าได้อย่างกว้างขว้างมากมาย  พร้อมทั้งทันสมัยทันใจ  สะดวกรวดเร็ว  จึงเป็นสิ่งดึงดูดใจในคนรุ่นหลังเกิดการเรียนรู้  ซึ่งความรู้อาจไม่ได้มีแต่จากการบอกเล่าของครูหรือแต่ในตำรา  แต่ความรู้อยู่ที่ใครรู้จักศึกษาค้นคว้าและได้พบเจอเองจริงในชีวิตประจำวัน


กิจกรรมทดสอบกลางภาคเรียน
1.  ให้นักเรียนอ่านบทความแล้วดำเนินการดังนี้
1.ข้อสรุปที่ได้จากบทความ
                เป็นแนวการสอนรูปแบบหนึ่งที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเกิดทักษะการคิดด้วยตนเอง  โดยที่มีครูเป็นเพียงผู้ชี้นำและใช้คำถามให้เกิดการอภิปรายกันระหว่างผู้เรียน  และเป็นการจัดการเรียนรู้ที่อยู่บนพื้นฐานของความรู้และความเชื่อของครูที่เกิดจากการทำความเข้าใจการคิดเชิงคณิตศาสตร์ของนักเรียนซึ่งจะฝึกให้ผู้เรียนสามารถคิดวิเคราะห์และให้เหตุผลได้  และสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง
2.ถ้าท่านเป็นครูผู้สอนท่านจะนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์กับการเรียนการสอนได้อย่างไร
จะใช้เหตุการณ์ในชีวิตประจำวันที่ผู้เรียนหรือผู้สอนได้พบเจอ  แล้วให้ผู้เรียนช่วยกันอภิปรายจนได้ข้อสรุปและช่วยกันแก้ปัญหา  และให้ผู้สอนประเมินผู้เรียนโดยการถามคำถามแล้วให้ผู้เรียนตอบพร้อมทั้งให้เหตุผลในคำตอบนั้นด้วย  ซึ่งจะส่งเสริมให้ผู้เรียนได้รับการเรียนรู้ด้วยตัวเองมากกว่าการเรียนรู้ในรูปแบบของการเป็นผู้รับความรู้จากผู้สอนเพียงอย่างเดียว  และผู้สอนควรให้ความสนใจและเอาใจใส่ผู้เรียนอย่างใกล้ชิด3.ในฐานะที่นักศึกษาจะเป็นครูในอนาคตจะออกแบบการเรียนการสอนที่จะนำแนวคิดนี้ไปใช้ได้อย่างไร
1.             กำหนดจุดประสงค์ที่จะให้เกิดขึ้นกับผู้เรียนไว้อย่างชัดเจน
2.             นำขั้นตอนทั้ง  4   ขั้นตอนที่สำคัญในกระบวนการจัดการเรียนรู้ของชั้นเรียน  CGI  ที่
สอดคล้องกันดังนี้
2.1        ครูนำเสนอปัญหา  ควรเลือกปัญหาที่ผู้เรียนเคยพบเจอในชีวิต
2.2        ครูช่วยแนะให้ผู้เรียนมีความเข้าใจปัญหา  และเปิดโอกาสให้ผู้เรียนแก้ปัญหา  ครูต้องช่วย
แนะนำจนให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจและสามารถแก้ปัญหานั้นได้และต้องให้เวลาผู้เรียนเพื่อทำความเข้าใจปัญหา  ซึ่งครูต้องอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับสื่อ  เครื่องมือต่าง ๆ    หรืออุปกรณ์ที่ผู้เรียนต้องการ
2.3        นักเรียนรายงานคำตอบและวิธีการแก้ปัญหา  และเลือกถามเป็นรายบุคคลถึงวิธีการในการ
แก้ปัญหาพร้อมเหตุผล  เช่น  คุณหาคำตอบได้อย่างไร  ทำไมใช้วิธีการนั้น  เป็นต้น
2.4        ครูและผู้เรียนร่วมกันอภิปรายคำตอบและวิธีการที่ใช้  ผู้เรียนทั้งชั้นช่วยกันอภิปรายถึง
คำตอบและวิธีการที่แตกต่างกัน  โดยครูเป็นผู้นำให้เกิดการอภิปรายโดยใช้คำถาม  เช่น  คำตอบสองคำตอบนี้เหมือนหรือต่างกันอย่างไร  ใครมีวิธีการที่แตกต่างจากนี้ไม่  เป็นต้น



ความรู้จากการบอกเล่า  ยังไม่เท่าความรู้จากประสบการณ์จริง

2. ให้นักเรียนอ่านบทความแล้วดำเนินการดังนี้
1.ข้อสรุปที่ได้จากบทความ
                ในหลวงทรงเป็น  ครูของแผ่นดิน  ที่มีวิธีการสอนแบบทำให้ดูก่อน  พยายามชักจูงพยายามสอน  และทรงสอนอยู่ตลอดเวลาโดยใช้เหตุการณ์หรือเหตุผลมาพูดจนเกิดความเข้าใจ 
                “จะสอนให้คนดี  ครูต้องดีก่อน  จะสอนให้เด็กทำ  ครูต้องทำเป็นอย่างนั้นก่อน”
                จะต้องเป็นครูที่เป็นต้นแบบที่ถาวรคงทน 
2.ถ้าท่านเป็นครูผู้สอนท่านจะนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์กับการเรียนการสอนได้อย่างไร
จะเป็นครูที่มีวิธีการสอนแบบทำให้ดูก่อนแล้วให้ศิษย์ทำตาม  จะต้องเป็นครูที่มีความรู้ความสามารถมากพอที่จะนำความรู้ที่มีมาถ่ายทอดให้ลูกศิษย์ได้  ปลูกฝังให้ศิษย์เป็นคนดีของสังคมและใช้ชีวิตอย่างพอเพียงตามพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
3.ในฐานะที่นักศึกษาจะเป็นครูในอนาคตจะออกแบบการเรียนการสอนที่จะนำแนวคิดนี้ไปใช้ได้อย่างไร
1.             ทำให้ดูก่อน  และพยายามที่จะจูงใจให้นักเรียนมาสนใจ
2.             ลงมือทำเลย  ไม่ต้องรอเดี๋ยวค่อยทำ
3.             เป็นคนดี
4.             ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง

กิจกรรมที่  7
โทรทัศน์ครู

 เป็นการใช้เทคนิคง่ายๆ  ที่เป็นรูปธรรม  สามารถจับต้องได้  โดยใช้เหรียญที่มีด้านหนึ่งเป็นจำนวนเต็มบวกหนึ่ง  และอีกด้านเป็นจำนวนเต็มลบหนึ่ง  มาฝึกฝนทักษะในการบวกจำนวนเต็ม  2  จำนวน  จนทำให้นักเรียนลดความสับสนเกี่ยวกับการบวกจำนวนเต็มที่มีเครื่องหมายข้างหน้าต่างกัน  นักเรียนเกิดความเข้าใจ และ มีความรู้ที่ฝั่งแน่นได้เป็นอย่างดี

บรรยากาศในชั้นเรียน
ใช้สื่อที่ทันสมัยในการเรียนการสอนและมีเครื่องมือการสอนที่ชัดเจนสามารถฝึกฝนทำเองได้  ทำให้นักเรียนเกิดความรู้ความเข้าใจสิ่งนั้นเองได้

คุณครูโฉมนภา วัชรัมพร คุณครูคณิตศาสตร์แห่งโรงเรียนสายปัญญารังสิต จังหวัด ปทุมธานี
กิจกรรมที่ 6 เพื่อนกันตลอดไป
กิจกกรมที่  5
คุณครูที่ประทับใจ
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ นาง ไพศล     นามสกุล  โสนารถ
สัญชาติ  ไทย       เชื้อชาติ  ไทย       ศาสนา  พุทธ
เกิดวันที่  8  เดือน  ธันวาคม  พ.ศ.2501  เกษียณอายุราชการปี  30  กันยายน  พ.ศ.2562
ภูมิลำเนาบ้านเลขที่  70/2  หมู่ที่  5  ต.ทอนหงส์  อ.พรหมคีรี  จ.นครศรีธรรมราช  80320
ชื่อบิดา                                  นายจรัส ศรีเมือง                  อาชีพ     ทำสวน
ชื่อมารดา              นางอำภา  ศรีเมือง                              อาชีพ     ทำสวน
เริ่มรับราชการ  /  ทำงานตำแหน่ง  ครู  2  ระดับ  /  ขั้น  1,950  บาท
โรงเรียนคงคาประชารักษ์  ต.กะหรอ  อ.ท่าศาลา  จ.นครศรีธรรมราช
สังกัดกอง  การมัธยม  กรม  สามัญศึกษา  กระทรวงศึกษาธิการ
วันที่  20  พฤศจิกายน  พ.ศ.2523  อายุ  21  ปี  11  เดือน  12  วัน
ความสามารถพิเศษ
1.                 มีความสามารถในการทำงานดอกไม้สดและทำเป็นอาชีพเสริม
2.                มีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์พอสมควร

ประวัติการศึกษา
ปริญญาตรี            สถาบันราชภัฏนครศรีธรรมราช      2538
ป.กศ.สูง                วิทยาลัยครูนครศรีธรรมราช             2522
ป.กศ                      วิทยาลัยครูนครศรีธรรมราช             2520
ม.ศ.3                     โรงเรียนอำมาตย์พิทยานุสรณ์          2518
ป.4                         โรงเรียนบ้านในเขียว  1                    2512

ประวัติการรับราชการ  /  ทำงาน
20  พฤศจิกายน  2523  -  11  มกราคม  2529             ตำแหน่ง  ครู  2  โรงเรียนคงคมประชารักษ์
1  พฤษภาคม  2529  -  ปัจจุบัน                                      ตำแหน่ง  ครู  โรงเรียนพรหมคีรีพิทยาคม

ความภาคภูมิใจ
ปี  2553                                
ผ่านการประเมินครูดีเด่น  กลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี  (คหกรรม)
วันที่  17  สิงหาคม  2545                
ผ่านการประเมิน  เป็นครูต้นแบบปฏิรูปการเรียนรู้ของกรมสามัญศึกษา  ปี  2545 รับเกียรติบัตร  และเข็มเชิดชูเกียรติ    อาคารอารีน่า  ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าอิมแพ็คเมืองทองธานี  จ.  นนทบุรี
วันที่  1  สิงหาคม  2545                  
ผ่านการประเมิน  เป็นครูดีเด่น  สาขางานประดิษฐ์  รับเกียรติบัตร  เนื่อง
ในงานวันมัธยมศึกษาครั้งที่  15  จังหวัดนครศรีธรรมราช    โรงเรียนเบญจมราชูทิศ
ผ่านการประเมิน  เป็นครูต้นแบบปฏิรูปการเรียนรู้ของกรมสามัญศึกษา  ปี  2545  รับเกียรติบัตร  เนื่องในงานวันมัธยมศึกษาครั้งที่  15  จังหวัดนครศรีธรรมราช    โรงเรียนเบญจมราชูทิศ
ปี  2543                                                
เป็นครูแกนนำปฏิรูปการเรียนรู้ของกรมสามัญศึกษา  ปี  2543
ผลงานที่ปรากฏ
ปี  2553                 สร้างหนังสืออ่านเพิ่มเติม   “งานร้อยมาลัย”
ปี  2552                 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน  กระทรวงศึกษาธิการ  มอบเกียรติบัตร
ครูผู้สอน  “มาลัยดอกไม้สด”  และได้รับรางวัลระดับยอดเยี่ยม
ปี  2552                 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราชเขต  4  ร่วมกับโรงเรียนพรหมคีรีพิทยาคม
มอบเกียรติบัตรคัดเลือกเป็นครูจัดการเรียนรู้ตามระบบการเรียนรู้ดีเด่น
ปี  2551                 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราชเขต  4  มอบเกียรติบัตรประกาศเกียรติคุณ
เป็นครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีระดับช่วงชั้น  3-4  ดีเด่น
ปี  2551                 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราชเขต  4  ร่วมกับโรงเรียนพรหมคีรีพิทยาคม
มอบเกียรติบัตรคัดเลือกเป็นครูจัดการเรียนรู้ดีเด่นประจำปีการศึกษา  2550
ปี  2549                 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราชเขต  4  มอบเกียรติบัตรประกาศเกียรติคุณ
ผ่านการประเมินเป็นครูผู้สอนการงานอาชีพและเทคโนโลยีระดับคุณภาพดีเด่น               
ผลงานที่เกิดกับนักเรียน
ด้านความรู้            จากการที่ให้นักเรียนได้ฝึกทักษะปฏิบัติบ่อย ๆ  นักเรียนมีความรู้  มีทักษะ  มีประสบการณ์ 
ในการทำงานและสามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันและประกอบเป็นอาชีพเสริม
ได้
ด้านเศรษฐกิจ       นักเรียนนำความรู้  ทักษะที่ได้รับ  รับร้อยมาลัยในชุมชนทำให้มีรายได้เสริมให้กับ
ครอบครัวของนักเรียน
ผลที่เกิดกับครู
ครูมีความภาคภูมิใจกับผลงานของนักเรียน  ในด้านผลการแข่งขันและผลงานด้านอาชีพ  และการได้ช่วยเหลือในการจัดตกแต่งสถานที่ในการจัดงานในชุมชนต่าง ๆ